Q&A:
ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ
Q: เลนส์โปรเกรสซีฟคืออะไร? ต่างจากเลนส์สองชั้นอย่างไร?
A: เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์แว่นตาชนิด หลายระยะ (multifocal) ที่รวมค่าสายตาหลายค่าไว้ในเลนส์เดียว ช่วยให้มองเห็นได้ทั้งระยะไกล กลาง และใกล้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเส้นแบ่งบนเลนส์เหมือนเลนส์สองชั้นแบบดั้งเดิม
กล่าวคือ คุณสามารถใส่แว่นโปรเกรสซีฟอันเดียวแล้วมองเห็นได้ชัดตั้งแต่ขับรถมองถนนไกลๆ ใช้คอมพิวเตอร์ระยะช่วงแขน หรืออ่านหนังสือใกล้ๆ ได้เลย โดยที่คนภายนอกจะไม่เห็นเส้นแบ่งบนเลนส์ว่าเราใส่แว่นหลายระยะอยู่ ซึ่งแตกต่างจากแว่นสองชั้น (bifocal) ที่มองก็รู้เลยว่ามีแบ่งครึ่งเลนส์บน-ล่างชัดเจนและไม่มีระยะกลาง (ระยะคอมพิวเตอร์) รองรับ เลนส์โปรเกรสซีฟจึงถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ผู้สูงวัยใช้งานสายตาได้สะดวกและดูขึ้นไม่มีรอยต่อของเลนส์ครับ
Q: ถ้าเริ่มมีสายตายาวตามวัย ควรใช้แว่นอ่านหนังสือแยกต่างหากหรือเปลี่ยนมาใช้เลนส์โปรเกรสซีฟเลยดี?
A: ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานสายตาของแต่ละคนครับ หากคุณไม่มีปัญหาสายตาระยะไกลหรือกลางมาก่อน และแค่ต้องการความช่วยเหลือระยะใกล้เฉพาะเวลาจะอ่านหนังสือเป็นครั้งคราว แว่นอ่านหนังสือ (reading glasses) ธรรมดาๆ อาจเพียงพอและประหยัด อย่างไรก็ตาม แว่นอ่านหนังสือจะช่วยได้เฉพาะมองใกล้เท่านั้น เวลาเงยหน้ามองไกลคุณต้องถอดแว่นออก ทำให้ยุ่งยากหากต้องใส่ๆ ถอดๆ บ่อยๆ อีกทั้งแว่นอ่านหนังสือไม่ได้ช่วยระยะกลางเช่นการใช้คอมพิวเตอร์เลย ในขณะที่เลนส์โปรเกรสซีฟสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ครบถ้วนในอันเดียว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือยาวเดิมอยู่แล้วและต้องใส่แว่นอยู่ก่อน พอมีสายตายาวตามวัยก็จำเป็นต้องมีหลายค่าสายตา แทนที่จะต้องพกแว่นหลายอัน Progressive lens จะรวมค่าสายตาระยะไกล-กลาง-ใกล้ไว้ด้วยกัน ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นมาก งานวิจัยชี้ว่าหลายคนที่เคยใช้แต่แว่นสายตาเดี่ยว พออายุมากขึ้นต้องใช้หลายค่า การเปลี่ยนมาใช้เลนส์โปรเกรสซีฟจะช่วยแก้ปัญหาการต้องสลับแว่นหลายอันได้
นอกจากนี้ถ้าใครไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราเริ่มมีสายตายาวตามวัย (เพราะแว่นสองชั้นจะเห็นเส้นชัด) การใช้เลนส์โปรเกรสซีฟก็ช่วยให้ดูเป็นแว่นปกติ ไม่มีใครสังเกตเห็นความต่างแต่ยังได้ประโยชน์ครบครับ
Q: เลนส์โปรเกรสซีฟใส่ยากไหม? ต้องใช้เวลาปรับตัวนานแค่ไหน?
A: ผู้ใช้ใหม่หลายคนอาจกังวลเรื่อง “การปรับตัว” กับเลนส์โปรเกรสซีฟ แต่จากประสบการณ์ของหมอและข้อมูลจากผู้ผลิตเลนส์ พบว่าคนส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ภายในระยะเวลาไม่นานครับ เคล็ดลับคือให้เริ่มใช้แว่นโปรเกรสซีฟ ให้เร็วและบ่อยที่สุด เท่าที่จะทำได้ (หมายถึงใส่ตั้งแต่เริ่มมีค่าสายตายาวเล็กน้อย ไม่ต้องรอให้สายตายาวมากๆ และเมื่อได้แว่นมาแล้วให้ใส่เป็นประจำ) การทำเช่นนี้จะช่วยให้สมองและดวงตาเรียนรู้การใช้เลนส์หลายระยะได้เร็วขึ้น โดยทั่วไปความรู้สึกแปลกๆ หรือไม่สบายในช่วงแรกจะลดลงภายในไม่กี่วันหากใส่แว่นอย่างสม่ำเสมอ
และโดยมากภายใน 1-2 สัปดาห์ ร่างกายจะปรับตัวได้จนใช้งานคล่องแคล่วเป็นปกติ ทั้งนี้มีคำแนะนำว่าควรใส่แว่นโปรเกรสซีฟตลอดทั้งวันแทนการสลับกับแว่นเก่าบ่อยๆ เพื่อเร่งการปรับตัว ในรายที่ใส่อย่างต่อเนื่อง อาการต่างๆ มักจะหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์แรก
แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะครับ บางคนอาจใช้เวลาเพียง 2-3 วันก็ชิน ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เวลาถึง 2-3 สัปดาห์จึงจะสบายตาเต็มที่ สิ่งสำคัญคือต้องมีความอดทนและเปิดใจให้เวลาตัวเองปรับตัวครับ
Q: เลนส์โปรเกรสซีฟทำให้ปวดหัว เวียนหัว หรือมองภาพวูบๆ จริงไหม?
A: อาการเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงแรก ของการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ แต่ไม่ได้เกิดกับทุกคนและส่วนใหญ่เป็นเพียงชั่วคราวครับ เหตุผลที่บางคนรู้สึกมึนหัวหรือภาพวูบวาบเวลาเหลือบตามองด้านข้างก็เพราะเลนส์โปรเกรสซีฟมีการไล่กำลังเลนส์ ทำให้บริเวณขอบเลนส์จะมีความคลาดเคลื่อนทางสายตาอยู่บ้าง (เรียกว่า “swim effect” หรือภาพเหมือนลอยไหวเล็กน้อย) รวมถึงการที่สมองต้องปรับตัวกับการใช้เลนส์หลายระยะใหม่ๆ ผู้ใช้บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ หรือเสียการทรงตัวเล็กน้อยในระยะแรกเริ่ม
แต่อาการเหล่านี้มักจะบรรเทาลงและหายไปเมื่อสมองปรับตัวเข้ากับเลนส์ได้ (ตามที่หมอได้ตอบไปในคำถามเรื่องระยะเวลาปรับตัวด้านบน) นอกจากนี้ การตัดแว่นโปรเกรสซีฟกับผู้เชี่ยวชาญที่ชำนาญจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ให้น้อยที่สุด เพราะหากเลนส์ได้รับการปรับตั้งและวัดค่าอย่างถูกต้อง อาการผิดปกติต่างๆ จะเกิดขึ้นน้อยมาก บางรายแทบไม่รู้สึกมึนเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าคุณสั่งทำเลนส์กับผู้เชี่ยวชาญและใส่ใจใช้เวลาในการปรับตัวสักหน่อย ส่วนใหญ่แล้วจะผ่านช่วงแรกไปได้และใช้งานเลนส์ได้อย่างสบายตาครับ กรณีที่ผ่านไปหลายสัปดาห์แล้วยังมึนหัวอยู่ ควรกลับไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเช็คการประกอบแว่นอีกครั้ง อาจมีการปรับแก้ที่ทำให้ดีขึ้นได้
Q: เลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาแพงกว่าเลนส์ธรรมดามากไหม แล้วคุ้มค่าหรือเปล่า?
A: โดยทั่วไปเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีราคาสูงกว่าเลนส์ชั้นเดียวหรือเลนส์สองชั้นธรรมดาครับ ส่วนจะมากกว่าขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของเลนส์ที่เลือกด้วย เหตุผลที่เลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาแพงกว่าก็เพราะ ขั้นตอนการออกแบบและผลิตที่ซับซ้อนกว่า จำเป็นต้องผสมผสานค่าสายตาหลายระยะเข้าไว้ในเลนส์เดียวอย่างแม่นยำ ซึ่งต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต มากกว่าเลนส์ทั่วไปที่มีแค่ค่าสายตาเดียวบนเลนส์ มีแหล่งข้อมูลอธิบายไว้ว่าเลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาสูงกว่าก็เนื่องมาจากต้องอาศัย “เวลาและความประณีตในการสร้างเลนส์ที่รวมหลายค่าสายตาไว้โดยไม่มีเส้นแบ่ง” นั่นเอง
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงประโยชน์ที่ได้รับ เลนส์โปรเกรสซีฟถือว่า คุ้มค่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาหลายระยะครับ เพราะคุณไม่ต้องพกแว่นหลายอันหรือคอยสลับแว่นไปมา อีกทั้งเลนส์รุ่นใหม่ๆ ยังทำได้บางและน้ำหนักเบา ใส่สบายและดูสวยงามเหมือนแว่นปกติ ด้วยข้อดีเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่พึงพอใจกับเลนส์โปรเกรสซีฟในระยะยาว นอกจากนี้ร้านหรือผู้ผลิตเลนส์หลายแห่งก็มักมีการรับประกันความพึงพอใจ เช่น ปรับเปลี่ยนเลนส์ให้ฟรีหากใส่ไม่สบาย เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าอีกด้วย (ลองสอบถามนโยบายการรับประกันจากร้านแว่นที่ใช้บริการนะครับ) ดังนั้นแม้ราคาสูงกว่า แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและความสะดวกสบาย เลนส์โปรเกรสซีฟก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียวสำหรับหลายๆ คนครับ