ไขความลับเลนส์โปรเกรสซีฟ: คุณมั่นใจไหมว่า "เลนส์โปรเกรสซีฟ" ที่คุณใช้อยู่ออกแบบมาเพื่อคุณจริงๆ?

Jul 10, 2025

ไขความลับเลนส์โปรเกรสซีฟ: คุณมั่นใจไหมว่า "เลนส์โปรเกรสซีฟ" ที่คุณใช้อยู่ออกแบบมาเพื่อคุณจริงๆ? และจะเลือกอย่างไรให้ดีที่สุดสำหรับคุณ..
 

เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 40 ปี สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงมาเยือนอย่างเงียบๆ แต่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งคือ "สายตา" ข้อความบนมือถือที่เคยคมชัดเริ่มเบลอ ต้องหยีตาเพื่อเพ่งมองเมนูอาหารในร้านที่มีแสงสลัว หรือแม้แต่การอ่านป้ายราคาเล็กๆ ก็กลายเป็นเรื่องท้าทาย นี่คือภาวะสายตายาวตามวัย (Presbyopia) ซึ่งเกิดจากเลนส์แก้วตาตามธรรมชาติสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้การโฟกัสภาพระยะใกล้ทำได้ยากขึ้น

หลายท่านคงเคยได้ยินหรือได้รับการแนะนำให้ใช้ "เลนส์โปรเกรสซีฟ" (Progressive Lenses) เทคโนโลยีที่ถูกยกย่องว่าสามารถคืนการมองเห็นที่คมชัดในทุกระยะ ทั้งไกล กลาง และใกล้ ได้ภายในแว่นตาอันเดียว โดยไม่มีรอยต่อของเลนส์สองชั้น (Bifocal) แบบเดิมๆ มาบดบังความสวยงาม แต่คำถามที่น่าสนใจคือ... ทำไมหลายคนถึงล้มเหลว และมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับแว่นโปรเกรสซีฟคู่แรก?

อาการเวียนหัว ภาพบิดเบี้ยวจนน่ารำคาญ การหาตำแหน่งโฟกัสไม่เจอ หรือมุมมองด้านข้างที่แคบเกินไปจนต้องหันทั้งศีรษะแทนการเหลือบมอง คือปัญหาที่หลายคนพบเจอ จนท้ายที่สุดก็นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า "เลนส์โปรเกรสซีฟคงไม่เหมาะกับเรา"

ความจริงที่น่าประหลาดใจก็คือ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ "ดวงตา" ของผู้ใช้ แต่อยู่ที่ "กระบวนการ" ที่ขาดความละเอียดและความเชี่ยวชาญต่างหาก

Frustrated businessman leaning at the glass wall

ความจริงที่ถูกมองข้าม: เลนส์ที่ดีที่สุด เริ่มต้นที่การตรวจที่แม่นยำที่สุด
 

ลองจินตนาการถึงการตัดสูทที่พอดีตัว ช่างตัดเสื้อที่เก่งกาจจะไม่ได้แค่ถามไซส์ S, M, L แต่จะทำการวัดตัวอย่างละเอียดทุกสัดส่วน การตัดแว่นโปรเกรสซีฟก็เช่นเดียวกัน เลนส์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในโลก ก็อาจไร้ความหมายทันทีหากมันถูกสร้างขึ้นจาก "พิมพ์เขียว" หรือข้อมูลค่าสายตาที่ไม่ถูกต้องและไม่สมบูรณ์

ที่ OPTICARE DR+ มีความเชื่อมั่นและเป้าหมายอันชัดเจนในการ ยกระดับการตรวจสายตาและตรวจสุขภาพตาให้เป็นมาตรฐานใหม่ของประเทศไทย  เราเชื่อว่าการตรวจสายตาไม่ใช่แค่การหา "ตัวเลข" แต่คือการสร้าง

 "แผนที่การมองเห็นเฉพาะบุคคล" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เลนส์โปรเกรสซีฟทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามที่ถูกออกแบบมา

กระบวนการตรวจสายตาและสุขภาพตาเพื่อเลนส์โปรเกรสซีฟที่ OPTICARE DR+ จึงถูกออกแบบมาให้มีความละเอียดและเป็นระบบ  โดยครอบคลุมมิติที่สำคัญดังนี้:

 
1. การวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์เชิงลึก (In-depth Lifestyle Analysis): นี่คือขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดและมักถูกละเลย คำถามไม่ได้หยุดอยู่แค่ "ทำงานอะไร" แต่จะเจาะลึกถึงพฤติกรรมการใช้สายตาในชีวิตประจำวัน เพื่อนำเสนอเลนส์และกรอบแว่นที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง 

  •  ระยะการทำงานหลักคือเท่าไหร่? การใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Laptop? ระยะห่างจากจอถึงตาเป็นอย่างไร?
  • งานอดิเรกคืออะไร? การอ่านหนังสือ (ระยะใกล้), ดูโทรทัศน์ (ระยะกลาง), ตีกอล์ฟ (ระยะไกลและกลาง) หรือการขับรถเป็นประจำ (ระยะไกลและคอนโซลหน้ารถ)?
  • พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอย่างไร? ถนัดถือในระดับสายตาหรือระดับต่ำกว่า?
  • ประวัติการใช้แว่นตาเดิมเป็นอย่างไร? เคยใช้เลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อนหรือไม่? อะไรคือสิ่งที่ชอบและไม่ชอบในแว่นเดิม?

    ข้อมูลเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญในการ "ออกแบบโครงสร้างเลนส์" (Lens Design) ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

2. การประเมินสุขภาพตาเบื้องต้น (Comprehensive Eye Health Screening): ก่อนจะจ่ายค่าสายตา จำเป็นต้องมั่นใจว่าดวงตาแข็งแรงดี การตรวจคัดกรองโรคตาที่พบบ่อยในวัย 40+ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน หรือความเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ OPTICARE DR+ มีการใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยในการประเมินสุขภาพตาเบื้องต้น หากพบความเสี่ยงใดๆ จะมีการให้ข้อมูลอย่างระมัดระวังเพื่อประกอบการตัดสินใจในการพบจักษุแพทย์ต่อไป  

Your eyesight is restoring


3. การตรวจวัดค่าสายตาด้วยเทคนิคขั้นสูง (Advanced Refraction): การหาค่าสายตาที่แม่นยำไม่ใช่แค่การอ่านชาร์ตแล้วตอบว่า "ชัดหรือไม่ชัด" แต่เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการหา "สมดุล" ที่ดีที่สุด

    • การทดสอบการทำงานร่วมกันของตาสองข้าง (Binocular Vision Test): การประเมินว่าตาสองข้างทำงานร่วมกันได้ดีเพียงใดเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่ส่งผลต่อการปรับตัวเข้ากับเลนส์โปรเกรสซีฟ
    • การระบุตาข้างถนัด (Dominant Eye Identification): การหาว่าตาข้างไหนเป็น "ตาหลัก" มีผลต่อการออกแบบโครงสร้างเลนส์เพื่อให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติที่สุด
    • การยืนยันค่าสายตาในสภาวะจริง (Final Prescription Verification): มีการให้ทดลองค่าสายตาในสภาวะที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง ไม่ใช่แค่การนั่งนิ่งๆ บนเก้าอี้ แต่รวมถึงการลองเดิน ลองมองโทรศัพท์ หรือมองวัตถุในระยะต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าค่าสายตานั้น "สบายตา" และใช้งานได้จริง


4. การวัดค่าพารามิเตอร์เฉพาะบุคคล (Individual Parameter Measurement): นี่คือจุดที่แยกระหว่าง "แว่นตาทั่วไป" กับ 

"แว่นตาเฉพาะบุคคล" อย่างแท้จริง  หลังจากเลือกกรอบแว่นที่ถูกใจ จะมีการวัดค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่นเมื่ออยู่บนใบหน้าอย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งประกอบด้วย:


  • ระยะห่างระหว่างรูม่านตา (PD)
  • ความสูงของจุดกึ่งกลางรูม่านตา (Fitting Height)
  • องศาความเทของหน้าแว่น (Pantoscopic Tilt)
  • ระยะห่างจากกระจกตาถึงเลนส์ (Vertex Distance)
  • องศาความโค้งของหน้าแว่น (Frame Wrap Angle)
    ค่าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะมันคือตัวกำหนดว่า "จุดโฟกัสที่แม่นยำที่สุดของเลนส์จะถูกวางไว้ตรงกับตำแหน่งรูม่านตาของคุณพอดีหรือไม่" ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย อาจหมายถึงความแตกต่างระหว่าง "การมองเห็นที่คมชัดสบายตา" กับ "การมองเห็นที่พร่ามัวและต้องฝืนเพ่งตลอดเวลา"

ไม่ใช่แค่ "ชนิด" ของเลนส์ แต่คือ "เทคโนโลยี" ที่อยู่เบื้องหลัง
 

เมื่อได้ "พิมพ์เขียว" ที่สมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกเทคโนโลยีของเลนส์โปรเกรสซีฟ ซึ่งมีตั้งแต่รุ่นมาตรฐานไปจนถึงรุ่นที่มีสมรรถนะสูง โดยที่ปรึกษาจะให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส ไม่แนะนำเลนส์ที่ราคาสูงเกินความจำเป็น 

Lenses for medical
  •  Conventional Progressive Lenses: เทคโนโลยีรุ่นเก่า มีโครงสร้างมาตรฐานสำเร็จรูป มุมมองด้านข้างจะค่อนข้างแคบ ทำให้เกิดภาพบิดเบี้ยวได้ง่าย
  • Digital Freeform Lenses: เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ใช้การคำนวณและขัดเลนส์แบบจุดต่อจุดด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้นและภาพบิดเบี้ยวน้อยลง
  • Individualized Progressive Lenses: เทคโนโลยีขั้นสูงสุด ที่นำค่าสายตา ค่าพารามิเตอร์เฉพาะบุคคล และข้อมูลไลฟ์สไตล์ มาประมวลผลร่วมกันเพื่อสร้างเลนส์ที่มีโครงสร้าง "หนึ่งเดียวในโลก" สำหรับผู้ใช้แต่ละคนโดยเฉพาะ ผลลัพธ์คือมุมมองที่กว้างที่สุด ภาพบิดเบือนน้อยที่สุด และการปรับตัวที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด


ที่ OPTICARE DR+ มีความร่วมมือกับผู้ผลิตเลนส์ชั้นนำของโลก อาทิ 

Nikon, Hoya, Zeiss, และ Essilor เพื่อให้มั่นใจว่ามีเทคโนโลยีเลนส์ที่ทันสมัยและหลากหลายที่สุด พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด 

ความรับผิดชอบ ไม่ได้จบลงที่การส่งมอบแว่น
 

การได้รับแว่นโปรเกรสซีฟที่ดีที่สุดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การบริการหลังการขายคือบทพิสูจน์ของความเป็นมืออาชีพ ที่ OPTICARE DR+ มีการให้คำแนะนำในการปรับตัวกับแว่นใหม่ สอนเทคนิคการมองในระยะต่างๆ และนัดติดตามผลการใช้งานเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การมองเห็นที่ดีที่สุด

ถึงเวลาตั้งคำถาม: ทำไมต้อง "ทน" กับการมองเห็นที่จำกัด? ทำไมต้องยอมแลกความสะดวกสบายกับการมองเห็นที่ไม่เป็นธรรมชาติ?

การลงทุนกับแว่นโปรเกรสซีฟที่ดี ไม่ใช่แค่การซื้อ "สิ่งของ" แต่คือการลงทุนใน "คุณภาพชีวิต" คือการได้กลับมาซึ่งอิสระในการมองเห็น เพื่อการใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพในทุกๆ วัน

สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านนนทบุรี, ราชพฤกษ์ หรือบริเวณใกล้เคียง และกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่ "จริงใจ" และ "ใส่ใจในทุกรายละเอียด" เพื่อดูแลดวงตาและแก้ไขปัญหาสายตาอย่างยั่งยืน 



OPTICARE DR+ ขอเชิญให้คุณเข้ามาสัมผัสประสบการณ์การตรวจวัดสายตาและรับคำปรึกษาเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟที่แตกต่างและเหนือกว่า

อย่าปล่อยให้ประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีต มาตัดสินอนาคตการมองเห็นของคุณ

นัดหมายเพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพตาและปรึกษาเรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลได้แล้ววันนี้ ที่ OPTICARE DR+ บนถนนราชพฤกษ์ แล้วจะค้นพบว่า... โลกที่คมชัดในทุกระยะนั้น อยู่ใกล้แค่เอื้อม