ทบทวนเคส: คนไข้สูญเสีย Visual field ต้นเหตุข้อสงสัยไปถึงการค้นพบก้อนเนื้อในสมอง
เริ่มต้นจากการสอบถาม
เคสนี้เริ่มต้นจากการที่แฟนของคนไข้โทรมาสอบถามกับทางร้าน โดยแจ้งว่าคนไข้มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน ทั้งยังเคยได้รับแจ้งว่าเป็นโรคตาขี้เกียจเท่านั้น แต่เมื่อต้องต่ออายุใบขับขี่กลับพบว่าการมองเห็นแย่ลงอย่างมาก จึงต้องการเข้ามาปรึกษากับคุณหมอสายตา เนื่องจากรู้สึกว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก ทางร้านจึงนัดหมายวันตรวจให้กับคนไข้
การตรวจทั่วไปและการตรวจตาส่วนหน้า
เมื่อถึงวันนัดหมาย คุณหมอได้ทำการซักประวัติเบื้องต้น โดยคนไข้แจ้งว่ามีการมองเห็นแคบลง เหมือนมีอะไรบังอยู่ และมองไม่เห็นด้านข้างของดวงตาทั้งสองข้าง คุณหมอจึงเริ่มทำการตรวจสุขภาพตาเพื่อดูว่าช่องทางผ่านของแสงมีอะไรมาบดบังหรือไม่ แต่พบว่าตั้งแต่กระจกตา ช่องหน้าและหลังม่านตา จนถึงเลนส์ตาค่อนข้างปกติ จึงต้องตรวจดูจอประสาทตาและขั้วประสาทตาเพิ่มเติม
การตรวจตาส่วนหลัง
เมื่อตรวจดูที่ตาส่วนหลังพบว่าขั้วประสาทตามีสีที่ซีดกว่าปกติ ซึ่งลักษณะนี้สัมพันธ์กับการสูญเสียลานสายตา โดยมักพบในผู้ป่วยโรคต้อหิน แต่ก็มีโรคทางตาอื่นๆ ที่สามารถกระทบต่อการสูญเสียลานสายตาได้เช่นกัน เพื่อดูว่าการสูญเสียลานสายตาลุกลามไปยังจุดไหนบ้าง

คุณหมอสายตาจึงตัดสินใจตรวจ Confrontation Visual Field (เป็นการตรวจลานสายตาเบื้องต้นเพื่อระบุตำแหน่งของรอยโรค) เพื่อดูว่าตาแต่ละข้างเห็นตำแหน่งใด และไม่เห็นตำแหน่งใด พบว่าตาทั้งสองข้างมีการสูญเสียการมองเห็นจากทางด้านนอก (Temporal side) เป็นลักษณะดังภาพ

จากภาพจะเห็นได้ว่าหากแบ่งการมองเห็นแต่ละตาเป็น 10 ส่วน ตาขวาสามารถมองเห็นได้เพียง 4 ส่วน และตาซ้ายสามารถมองเห็นได้ 6 ส่วน ซึ่งลักษณะการมองเห็นแบบนี้เรียกว่า Bitemporal Hemianopia
การวินิจฉัยเบื้องต้นและการส่งต่อ
เมื่อพบลักษณะการมองเห็นแบบ Bitemporal Hemianopia สิ่งแรกที่คุณหมอนึกถึงคือ การเกิดเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมองที่กดทับเส้นประสาทตา (Pituitary Adenoma) อย่างไรก็ตาม การตรวจประสาทตาและลานสายตาที่ทางร้านเป็นเพียงการยืนยันเบื้องต้น จึงต้องใช้เครื่องมือที่ครบครันเพื่อยืนยันผลการตรวจ
ทางร้านจึงติดต่อประสานส่งตัวคนไข้ให้ทางคุณหมอจักษุประสาทวิทยา (Neuro-Ophthalmologist) ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทั้งทางตา ระบบประสาท และสมอง โดยคนไข้ได้นัดหมายเพื่อตรวจลานสายตาอย่างละเอียดและสแกนจอประสาทตาที่คณะทัศนมาตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต หลังจากได้ผลตรวจจึงเข้าพบคุณหมอจักษุประสาทวิทยา
การวินิจฉัยและการรักษา
ทางคุณหมอวิเคราะห์จากผลตรวจต่างๆ ร่วมกับการที่ได้เห็นรูปร่างของคนไข้ จึงแนะนำให้คนไข้เข้าพบโรงพยาบาลในสิทธิและทำการ MRI สมองทันที เนื่องจากคนไข้มีรูปร่างที่ใหญ่ทั้งลำตัว มือ และเท้าจึงคาดการณ์ว่ามีภาวะ Acromegaly เป็นภาวะที่ร่างกายทำการผลิตฮอร์โมนในการเจริญเติบโตมากกว่าปกติ ทำให้มีขนาดโครงกระดูก หรืออวัยวะต่างๆใหญ่กว่าปกติ ซึ่งภาวะนี้เองก็มักเกิดร่วมกันกับการมีเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง เพราะตัวของต่อมใต้สมองมีหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับฮอร์โมนที่ใช้ในการเจริญเติบโตของร่างกาย

คนไข้ได้ทำการติดต่อนัดหมายวันกับทางโรงพยาบาลจนท้ายที่สุดก็ได้วันทำ MRI และหลังจากนั้น 2 สัปดาห์แพทย์ก็นัดฟังผล MRI พบว่ามีเนื้องอกที่ต่อมใต้สมองจริงซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และกดทับเส้นประสาทตาทั้งสองข้างโดยเยื้องมาทางด้านขวาเล็กน้อย คุณหมอได้แจ้งวิธีการรักษาและนัดวันกับคนไข้ภายหลังอีกที
การติดตามผล
ทั้งนี้ทางร้านเองยังคง Follow-up กับทางคนไข้เป็นระยะ เนื่องด้วยคุณหมอของทางร้านเองมีความเป็นห่วงเป็นใย และมีความคาดหวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี คนไข้สามารถมีคุณภาพการมองเห็นได้ดีกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทีมหมอสายตาขอเป็นกำลังใจให้
Opticare DR+
-------------------------------------------------
OPTICARE DR+ ราชพฤกษ์
โครงการ Village Hub ติดกับโรบินสันราชพฤกษ์ Bquik เลี้ยวเข้ามาซ้ายมือ
โลเคชั่น https://maps.app.goo.gl/7D4jqGADPA6WiYTk8
จองคิวตรวจสายตาตรวจสุขภาพตาโดยคุณหมอสายตา (Optometrist) ที่เชียวชาญโดยตรง
ติดต่อเรา 02-128-0156
เปิดบริการ ทุกวัน
ทุกวัน 11.00-20.00 น.
หรือ https://linktr.ee/opticaredr
Official Website : https://opticaredr.com
#OpticareDR #รีวิวแว่นตา #ร้านแว่นตาราชพฤกษ์ #ร้านแว่นโดยหมอสายตา #ร้านแว่นตาปากเกร็ด
photo credit www.wikihow.health, www.medindia.net