ปี 2024 กับเรื่องราวที่น่าจดจำของ Opticare DR+
ปี 2024 กับเรื่องราวที่น่าจดจำของ Opticare DR+
ตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็มที่ Opticare DR+ ได้ถือกำเนิดและเปิดให้บริการ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสายตาและสุขภาพดวงตาของคนไข้ทุกท่านในพื้นที่นนทบุรี และรวมถึงคนไข้ที่เดินทางไกลมาจากที่อื่นด้วย ด้วยทีมงานมืออาชีพและเครื่องมือที่ทันสมัย เราได้มอบแว่นตาที่ผ่านการตรวจวัดอย่างพิถีพิถันให้กับคนไข้หลากหลายกลุ่ม ทั้งยังติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานของคนไข้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่การแก้ไขปัญหาสายตาไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การจ่ายแว่นตาเท่านั้น Opticare DR+ ยังให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้นและการตรวจวินิจฉัยโรคทางตาอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าดวงตาของคนไข้จะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ซึ่งในบางกรณี การตรวจที่ละเอียดและใส่ใจนี้ช่วยให้เราสามารถพบเจอโรคหรือภาวะที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้อย่างทันท่วงที
ในบทความนี้ เราจะย้อนดูเคสที่สำคัญและน่าประทับใจที่สุดที่เราได้พบในปีที่ผ่านมา ทุกเคสเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจที่ทำให้เรามุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการต่อไป

กระจกตาย้วย (Keratoconus) กับการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
ปัญหา:
คนไข้เข้ามาด้วยอาการ ภาพซ้อนและสายตาพร่ามัว เมื่อมองด้วยตาทั้งสองข้างร่วมกัน การตรวจวัดสายตาพบว่าสายตาเอียงในเลนส์แว่นเดิมนั้นต่ำกว่าความเป็นจริง และเลนส์ไม่สามารถแก้ไขภาพซ้อนได้อย่างสมบูรณ์
การตรวจวัดและวิเคราะห์:
ตรวจ Corneal Topography:
ใช้เครื่องมือสร้างแผนภูมิกระจกตา พบว่าคนไข้มีความผิดปกติของโครงสร้างกระจกตาในลักษณะ Keratoconus ทั้งสองข้าง แต่มีความรุนแรงไม่เท่ากัน
ตรวจค่าสายตาอย่างละเอียด:
พบว่าค่าสายตาเอียงสูงจนไม่สามารถแก้ไขด้วยเลนส์แว่นตาทั่วไปได้
วิเคราะห์ความหนากระจกตา (Pachymetry):
พบว่ากระจกตามีความบางผิดปกติ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของ Keratoconus

การแก้ไข:
จ่าย Rigid Gas Permeable (RGP) คอนแทคเลนส์ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งช่วยแก้ไขค่าสายตาเอียงได้อย่างแม่นยำ
สอนวิธีการใส่และดูแลคอนแทคเลนส์ รวมถึงแนะนำการเฝ้าระวังอาการ เช่น การระคายเคืองและการเปลี่ยนแปลงสายตา
ผลลัพธ์:
คนไข้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นและลดอาการภาพซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
การตรวจพบได้เร็ว ทำให้คนไข้ได้รับความรู้และแนวทางในการรักษานั้น ช่วยให้คนไข้เกิดการเฝ้าระวังและสังเกตุอาการทางตาของตนเพื่อไม่ให้ไปถึงจุดสุดท้ายของโรคนี้ ที่ต้องผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา

ภาพซ้อนที่นำไปสู่การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมอง
ปัญหา:
คนไข้หญิงเข้ามาด้วยอาการ ภาพซ้อนเมื่อใช้สายตาทั้งสองข้าง และอาการมองเห็นไม่ชัดในบางช่วง การตรวจเบื้องต้นพบว่าเป็นภาวะ ตาเขออกด้านนอก (Exotropia) ในตาข้างขวาซึ่งอาจเป็นผลจากกล้ามเนื้อตาที่ไม่สมดุล
การตรวจวัดและวิเคราะห์:
ตรวจแนวสายตา (Cover/Uncover Test) (With Prism):
พบว่ามีการเบี่ยงของตาด้านนอกในระหว่างที่ดวงตากำลังพัก วัดมุมออกมาได้ประมาณ 35 Prism Diopter
ตรวจ Eye Movement:
ตรวจการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อตา พบว่ามีการทำงานผิดปกติของเส้นประสาทควบคุมกล้ามเนื้อตา
ซักประวัติสุขภาพ:
พบว่าคนไข้ไม่ได้ตรวจสุขภาพมานานหลายปี

การแก้ไข:
แนะนำให้คนไข้ตรวจ MRI สมอง เพื่อค้นหาสาเหตุเพิ่มเติม
ประสานงานกับจักษุแพทย์เฉพาะทางในการวินิจฉัยและรักษา
ผลลัพธ์:
MRI พบว่าเส้นเลือดในสมองที่ส่งสัญญาณไปยังเส้นประสาทควบคุมกล้ามเนื้อตามีปัญหา คนไข้ได้รับคำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพและการรักษา ทำให้อาการดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด

จากปัญหาการมองเห็นสู่การตรวจพบเนื้องอกในต่อมใต้สมอง
ปัญหา:
คนไข้มาที่ร้านด้วยความกังวลว่า การมองเห็นเริ่มลดลงอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณด้านข้าง ทั้งสองข้าง เมื่อสอบถามเพิ่มเติม คนไข้เล่าว่า มีปัญหาในการมองเห็นขณะขับรถ เพราะมองไม่เห็นรถหรือคนที่เดินมาจากด้านข้างได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่าเขามัก เอียงศีรษะ หรือขยับมุมมองอยู่ตลอดเวลาเมื่อพยายามมองสิ่งต่างๆ
การตรวจวัดและวิเคราะห์:
การตรวจลานสายตา (Visual Field Test):
เมื่อตรวจด้วยเครื่อง Humphrey Visual Field Analyzer พบ Pattern การสูญเสียลานสายตาแบบ “Bitemporal Hemianopia”
ลักษณะนี้หมายถึง การสูญเสียลานสายตาด้านขมับของตาทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นอาการเฉพาะของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ เส้นประสาทตา (Optic Chiasm) บริเวณที่ตัดผ่านกันตรงต่อมใต้สมอง
การซักประวัติ:
คนไข้เล่าว่าเคยมีอาการปวดหัวเรื้อรังในอดีต แต่คิดว่าเป็นผลจากความเครียด จึงไม่ได้ตรวจสุขภาพ

การแก้ไข:
แนะนำการตรวจ MRI สมอง:
จากลักษณะการสูญเสียลานสายตาที่เฉพาะเจาะจง คุณหมอสายตาแนะนำให้คนไข้ตรวจ MRI เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุเพิ่มเติม เนื่องจากอาการนี้มักสัมพันธ์กับเนื้องอกในต่อมใต้สมอง (Pituitary Adenoma)
ทางร้านและทีมคุณหมอได้ประสานงานกับจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยา:
ทางทีมงานได้ส่งต่อข้อมูลผลการตรวจและข้อสันนิษฐานให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเร่งกระบวนการรักษา
ผลลัพธ์:
ผล MRI ยืนยันว่าคนไข้มี เนื้องอกในต่อมใต้สมอง (Pituitary Adenoma) ขนาด 5-10 ซม. ซึ่งกดทับเส้นประสาทตาในบริเวณ Optic Chiasm ทำให้เกิดลักษณะลานสายตาแบบ Bitemporal Hemianopia คนไข้เข้าสู่กระบวนการรักษาโดยการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน

ความบังเอิญที่นำไปสู่การรักษาการอักเสบของม่านตา
ปัญหา:
คนไข้ชายรายนี้ไม่ได้เป็นลูกค้าโดยตรงของทางร้าน เพียงแค่มาทำธุระที่ร้านแล้วก็คุยกับทางร้านว่ามีปัญหาสายตา ทางร้านจึงจัดการตรวจให้ทันทีและก็ได้พบปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของม่านตาอย่างรุนแรงชนิดที่ว่ามีผังพืดอุดรูม่านตาข้างหนึ่งจนแสงแทบเข้าไม่ได้
การตรวจวัดและวิเคราะห์:
ตรวจช่องหน้าม่านตา (Anterior Chamber):
พบการสะสมของเซลล์อักเสบในบริเวณช่องหน้าม่านตา
ตรวจรูม่านตา:
พบรูม่านตาที่ติดขัดจากพังผืด

การแก้ไข:
ทางร้านช่วยประสานและให้ข้อมูลการตรวจกับทางคนไข้เพื่อส่งมอบให้ทางโรงพยาบาล จึงทำให้คนไข้ได้รับการนัดหมายและช่วยลดขั้นตอนหลายๆส่วนจากทางโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว
แนะนำคนไข้ให้พบจักษุแพทย์เฉพาะทางทันที
ผลลัพธ์:
คนไข้ได้รับการรักษาอาการอักเสบอย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น
นอกจากเคสนี้และยังมีอีกหลายๆเคสที่เข้ามาด้วยความบังเอิญหรือเป็นเคสฉุกเฉินจนต้องให้ไปโรงพยาบาล ทางทีมงานคุณหมอสายตาและทางร้านก็ได้ทำการให้คำแนะนำ ผลการตรวจ เพื่อให้การไปพบจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลของคนไข้นั้น สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

เคสเด็กน้อยกับอาการปวดหัวที่ไม่ธรรมดา
ปัญหา:
เด็กอายุประมาณ 10 ปี มาพร้อมกับอาการ ปวดหัวเรื้อรังช่วงท้ายวัน ซึ่งส่งผลต่อสมาธิในการเรียนและกิจกรรมประจำวัน ผู้ปกครองเล่าว่าลูกมักบ่นว่ามองกระดานในห้องเรียนไม่ชัดเจน หรือรู้สึกเหนื่อยล้าดวงตาเป็นพิเศษเมื่อทำการบ้านที่ใช้การจ้องมองใกล้
การตรวจวัดและวิเคราะห์ปัญหา:
การตรวจ Functional Test:
ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา (Binocular Vision): พบว่ากล้ามเนื้อตาทั้งสองข้างไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะโฟกัสใกล้
การตรวจ Near Point of Convergence (NPC): ระยะการรวมภาพของสายตาในขณะมองใกล้มีความผิดปกติ ซึ่งหมายความว่ากล้ามเนื้อตาไม่สามารถรวมภาพได้ดีเมื่อดวงตาต้องมองวัตถุใกล้
Accommodation Amplitude: พบว่าความสามารถในการปรับโฟกัสระยะใกล้ต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับวัยของเด็ก
ตรวจหา Phoria:
เด็กมีภาวะ Esophoria หรือการเคลื่อนตัวของลูกตาออกด้านในเมื่อดวงตาอยู่ในสภาวะพัก ซึ่งส่งผลต่อการโฟกัสภาพระยะใกล้ในช่วงเวลานาน เช่น อ่านหนังสือหรือทำการบ้าน
Esophoria ที่มากกว่าปกตินี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวตามมา
การตรวจสายตาและการวิเคราะห์:
ค่าสายตายาว (Hyperopia) ซึ่งพบได้ปกติในเด็กในช่วงอายุนี้ แต่เด็กคนนี้มีค่าสายตาที่มากกว่าปกติจนส่งผลต่อกล้ามเนื้อโดยรวม จึงอาจเกิดอาการล้าเมื่อต้องใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน

การแก้ไขปัญหา:
ใช้แว่นที่มีโครงการเฉพาะในการช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อตา เพื่อไม่ให้เกิดอาการตาล้าและยังมีส่วนช่วยในการปรับแนวสายตาที่ผิดปกติของเด็กคนนี้ได้อีกด้วย
การติดตามผล:
ติดตามอาการปวดหัวและประสิทธิภาพของเลนส์ที่สั่งจ่ายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์แรก
ประสานงานกับจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกล้ามเนื้อตา หากอาการไม่ดีขึ้น
ผลลัพธ์:
หลังการใช้เลนส์และติดตามผลอย่างใกล้ชิด อาการปวดหัวของเด็กลดลงอย่างชัดเจน การโฟกัสภาพระยะใกล้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ผู้ปกครองเล่าว่าเด็กสามารถเรียนและทำการบ้านได้อย่างราบรื่นโดยไม่บ่นเรื่องอาการปวดหัวอีก
เคสนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการตรวจ Functional Test และการวินิจฉัยภาวะ Phoria ที่มักถูกมองข้าม หากไม่ได้รับการตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียด เด็กอาจต้องเผชิญกับอาการที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาว
นอกจากนี้เรายังพบเคสเด็กที่มีภาวะสายตาสั้น ซึ่งในภาวะการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิคที่สูงขึ้นมากในยุคป้จจุบันส่งผลให้เด็กมีค่าสายตามากขึ้น

Opticare DR+ มุ่งมั่นที่จะดูแลดวงตาของคนไข้ทุกวัยด้วยความใส่ใจและความเชี่ยวชาญ เพราะสุขภาพดวงตาที่ดีคือจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยม!
สุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญในทุกช่วงวัย
ดวงตาไม่เพียงแต่เป็นหน้าต่างของจิตใจ แต่ยังสะท้อนถึงสุขภาพโดยรวมของเรา การดูแลสุขภาพตาในทุกช่วงวัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยคัดกรองโรคที่อาจซ่อนเร้นและแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ระยะแรก เริ่มต้นจากการตรวจโดยทีมหมอที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าดวงตาของคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

ที่ Opticare DR+ เราไม่ใช่แค่ศูนย์เลนส์สำหรับจ่ายแว่นตา แต่เราคือพันธมิตรด้านสุขภาพดวงตาที่มุ่งมั่นช่วยเหลือคุณและครอบครัว ด้วยทีมหมอสายตาที่มีความเชี่ยวชาญ และกระบวนการตรวจที่ละเอียดครบถ้วน เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการตรวจสายตาในประเทศไทยให้ก้าวหน้าขึ้น
ในปี 2025 นี้ เราตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการบริการของเราให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าดวงตาของคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด เพราะที่ Opticare DR+ "สุขภาพดวงตาของคุณ...คือภารกิจที่สำคัญที่สุดของเรา"